63 วันทำการ 0 นาที

ผู้ใดประสงค์จะโฆษณา คุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหาร ทางวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ ทางฉายภาพ ภาพยนตร์ หรือทางหนังสือพิมพ์ หรือสิ่งพิมพ์อื่น หรือด้วยวิธีอื่นใด เพื่อประโยชน์ในทางการค้า ต้องนำเสียง ภาพ ภาพยนตร์ หรือข้อความที่จะโฆษณาดังกล่าวนั้น ให้ผู้อนุญาตตรวจพิจารณาก่อน เมื่อได้รับอนุญาตแล้วจึงจะโฆษณาได้ กรณีการโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหาร ที่ประสงค์จะเผยแพร่ทั่วประเทศ ให้ยื่นคำขออนุญาตโฆษณาอาหารต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ผ่านระบบ E-submission กรณีการโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหารที่ประสงค์จะเผยแพร่เฉพาะในแต่ละพื้นที่ที่สื่อนั้นตั้งอยู่ในแต่ละจังหวัด เช่น การโฆษณาทางสื่อวิทยุกระจายเสียง เครื่องขยายเสียง หรือทางสิ่งพิมพ์ ยกเว้นการโฆษณาทางสื่อโทรทัศน์ ให้ยื่นคำขออนุญาตโฆษณาอาหารต่อสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพื้นที่ที่สื่อนั้นตั้งอยู่ และให้เป็นไปตามข้อกำหนดในคู่มือสำหรับประชาชนในการขออนุญาตโฆษณาอาหารของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนั้นๆ หลักเกณฑ์การโฆษณาอาหาร 1. การโฆษณาอาหารต้องไม่ใช้ข้อความในลักษณะที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค หรือข้อความที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม (โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมข้อ 3 ในประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง หลักเกณฑ์การโฆษณาอาหาร พ.ศ. 2564) 2. การโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหาร ต้องไม่มีลักษณะที่เป็นเท็จหรือหลอกลวงให้เกิดความหลงเชื่อโดยไม่สมควร ซึ่งอาจเข้าข่ายตามมาตรา 40 (โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมข้อ 4 ในประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง หลักเกณฑ์การโฆษณาอาหาร พ.ศ. 2564) 3. การโฆษณาคุณประโยชน์คุณภาพหรือสรรพคุณของอาหาร ลักษณะต่อไปนี้ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาตแล้วจึงจะโฆษณาได้(โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมข้อ 6 ในประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง หลักเกณฑ์การโฆษณาอาหาร พ.ศ. 2564) 3.1 การโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพหรือสรรพคุณของอาหารที่ปรากฏบนฉลากที่ได้รับอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา 3.2 การโฆษณากล่าวอ้างทางโภชนาการ หรือใช้คุณค่าของสารอาหารในการส่งเสริมการขาย ต้องเป็นไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 182) พ.ศ. 2541 เรื่อง ฉลากโภชนาการ 3.3 การโฆษณากล่าวอ้างทางสุขภาพ (Health Claim) ของผลิตภัณฑ์อาหารที่ได้รับความเห็นชอบให้กล่าวอ้างทางสุขภาพจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแล้ว 4. การโฆษณาอาหารลักษณะต่อไปนี้ ไม่ต้องนำมาให้พิจารณาอนุญาตก่อน(โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมข้อ 5 ในประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง หลักเกณฑ์การโฆษณาอาหาร พ.ศ. 2564) 4.1 การให้ข้อมูลทางวิชาการที่ไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ในทางการค้า และไม่มีความเชื่อมโยงทำให้เข้าใจว่าเป็นการโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหารใดๆ แต่ทั้งนี้ การให้ข้อมูลทางวิชาการดังกล่าวต้องมีการให้ข้อมูลที่ครบถ้วนถูกต้องตามหลักวิชาการ มีหลักฐานอ้างอิงที่เชื่อถือได้ เช่น แสดงทั้งข้อดี-ข้อเสีย ข้อควรระวัง เป็นต้น 4.2 การโฆษณาในลักษณะการเสนอภาพลักษณ์ของบริษัทหรือกิจการ (Corporate Image ) 4.3 การโฆษณา เฉพาะที่เป็นลักษณะการโฆษณาที่เป็นการให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอาหาร ตามข้อความที่ระบุไว้ ในประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมในบัญชีหมายเลข 2 ของประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง หลักเกณฑ์การโฆษณาอาหาร พ.ศ. 2564) กรณีที่ผู้ประกอบการต้องการยื่นคำขออนุญาตโฆษณาเพื่อให้พิจารณาเนื้อหาโฆษณาลักษณะที่ไม่ต้องนำมาให้พิจารณาอนุญาตก่อน และไม่ประสงค์จะขอรับใบอนุญาตโฆษณาอาหาร สามารถยื่นคำขออนุญาตโฆษณาได้ โดยให้แจ้งความประสงค์ตามแบบที่กำหนด (หนังสือแจ้งความประสงค์จะโฆษณาอาหารโดยเนื้อหาการโฆษณาไม่เข้าลักษณะเป็นคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหาร) หลักเกณฑ์ทั่วไปในการโฆษณาอาหาร (โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติม ข้อ 8 ในประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง หลักเกณฑ์การโฆษณาอาหาร พ.ศ. 2564) (1) อาหารที่จะโฆษณาต้องมีรายละเอียดถูกต้องตามกฎหมาย ดังนี้ (ก) คุณภาพมาตรฐานผลิตภัณฑ์ต้องเป็นไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขเฉพาะเรื่องและประกาศที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ที่ยื่นขออนุญาต (ข) รายละเอียดสูตรส่วนประกอบต้องเป็นไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขเฉพาะเรื่องและประกาศที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ที่ยื่นขออนุญาต (ค) การใช้วัตถุเจือปนอาหารต้องเป็นไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยเรื่อง วัตถุเจือปนอาหาร (ง) ไม่มีการใช้วัตถุที่ห้ามใช้ในอาหาร และ/หรืออาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง (จ) ฉลากอาหารแสดงรายละเอียดถูกต้องตามกฎหมาย (2) ข้อปฏิบัติในการโฆษณาอาหาร 2.1 แสดงชื่ออาหารในสื่อโฆษณา (ก) การแสดงชื่ออาหารอาจไม่ต้องแสดงชื่อเต็มของอาหาร หากเนื้อหาโฆษณาได้กล่าวหรือแสดงให้เข้าใจแล้วว่าอาหารที่โฆษณานั้น เป็นอาหารชนิดหรือประเภทใดอย่างชัดเจนแล้ว (ข) การแสดงชื่ออาหารเพียงบางส่วน หรือนำชื่ออาหารบางส่วนมาโฆษณา จะต้องไม่ทำให้เข้าใจผิดในคุณประโยชน์ คุณภาพ สรรพคุณหรือสาระสำคัญของอาหาร 2.2 แสดงข้อความ/ คำเตือนในสื่อโฆษณา (โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมในบัญชีหมายเลข 4 ของประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง หลักเกณฑ์การโฆษณาอาหาร พ.ศ. 2564) (ก) สื่อสิ่งพิมพ์หรือสื่ออื่นใดที่มีเฉพาะภาพไม่มีเสียง แสดงคำเตือนด้วยตัวอักษรที่มีสี รูปแบบและขนาดที่อ่านได้ง่ายชัดเจนโดยกำหนดขนาดความสูงของตัวอักษรไม่น้อยกว่า 1 ส่วนใน 25 ส่วนของขนาดความสูงของพื้นที่โฆษณา (ข) สื่อวิทยุกระจายเสียงหรือสื่ออื่นใดที่มีเฉพาะเสียง แสดงคำเตือนในส่วนเสียงโฆษณาที่ฟังได้ชัดเจนทุกพยางค์ (ค) สื่อวิทยุโทรทัศน์ ภาพยนตร์ วิดิทัศน์ หรือสื่ออื่นใดที่มีทั้งภาพและเสียง อาจแสดงคำเตือนในส่วนเสียงโฆษณาที่ฟังได้ชัดเจนทุกพยางค์ หรือแสดงเป็นอักษรลอย (SUPER) เป็นเวลา ไม่น้อยกว่า 5 วินาที (หรือตามความเหมาะสมกับเวลาโฆษณา) ด้วยตัวอักษรที่มีสี รูปแบบและขนาดที่อ่านได้ง่ายชัดเจนโดยกำหนดขนาดความสูงของตัวอักษรไม่น้อยกว่า 1 ส่วนใน 25 ส่วน ของขนาดความสูงของพื้นที่โฆษณา หลักเกณฑ์เฉพาะในการโฆษณาอาหาร (โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติม ข้อ 9 ในประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง หลักเกณฑ์การโฆษณาอาหาร พ.ศ. 2564) ในการโฆษณาอาหารนั้น นอกจากต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ทั่วไปในการโฆษณาแล้ว ยังต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เฉพาะแล้วแต่กรณี ที่กำหนดสำหรับอาหาร 14 ประเภทดังนี้ด้วย 1. อาหารสำหรับทารก อาหารทารกสูตรต่อเนื่องที่ระบุอายุ 6-12 เดือน และอาหารเสริมสำหรับทารก 2. อาหารสำหรับเด็กเล็ก 3. อาหารเสริมสำหรับเด็กเล็ก 4. นมโค นมปรุงแต่ง ผลิตภัณฑ์ของนม นมเปรี้ยว เครื่องดื่มนม และน้ำนมถั่วเหลือง 5. วุ้นสำเร็จรูปและขนมเยลลี่ 6. วุ้นสำเร็จรูปและขนมเยลลี่ที่มีส่วนผสมของกลูโคแมนแนน หรือแป้งจากหัวบุก 7. อาหารทางการแพทย์ (Medical Food) 8. อาหารกึ่งสำเร็จรูป 9. เครื่องดื่มเกลือแร่ 10. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร 11. อาหารที่ต้องแสดงฉลากโภชนาการและค่าพลังงานน้ำตาลไขมันและโซเดียมแบบจีดีเอ (Guideline Daily Amounts; GDA) ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 394) พ.ศ. 2561 12. เครื่องดื่มที่ผสมกาเฟอีน 13. เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 14. อาหารอื่นใดที่ได้รับอนุญาตโดยมีข้อจำกัดต่างๆเป็นการเฉพาะ ให้ผู้อนุญาตกำหนดให้แสดงข้อความตามที่เห็นสมควรในการโฆษณาได้ ตัวอย่างคำที่ไม่อนุญาตให้ใช้ในการโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหาร (โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมในบัญชีหมายเลข 1 ประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง หลักเกณฑ์การโฆษณาอาหาร พ.ศ. 2564) ตัวอย่างข้อความที่ไม่อนุญาตในการโฆษณาอาหาร รวมถึงการใช้ภาพที่สื่อให้เข้าใจได้ในความหมายเดียวกัน (โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมในบัญชีหมายเลข 1 ของประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง หลักเกณฑ์การโฆษณาอาหาร พ.ศ. 2564) ลักษณะการโฆษณาที่ไม่ต้องนำมาให้พิจารณาอนุญาต (โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมในบัญชีหมายเลข 2 ของประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง หลักเกณฑ์การโฆษณาอาหาร พ.ศ. 2564) ตัวอย่างลักษณะการโฆษณาที่เข้าลักษณะเป็นคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณของอาหารที่ต้องยื่นคำขออนุญาตโฆษณาอาหาร (โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมในบัญชีหมายเลข 3 ของประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง หลักเกณฑ์การโฆษณาอาหาร พ.ศ. 2564) การแสดงข้อความ/คำเตือนในการโฆษณาอาหาร(โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมในบัญชีหมายเลข 4 ประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง หลักเกณฑ์การโฆษณาอาหาร พ.ศ. 2564) แนวทางการโฆษณาอาหารที่มีส่วนประกอบของกัญชง กัญชา (โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมในเว็บไซต์กองอาหารหัวข้ออาหารที่มีกัญชา กัญชง และสารสกัด CBD) แนวทางการโฆษณาอาหารที่มีส่วนประกอบของกระท่อม (โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมในเว็บไซต์กองอาหารหัวข้อแนวทางการพิจารณาอนุญาตใบกระท่อมบดผง หรือสารสกัดจากใบกระท่อมด้วยน้ำหรือเอทานอล เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร) วิธีการ 1. สร้างบัญชีชื่อ กับ สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมทางเว็บไซด์www.egov.go.th) ผู้ยื่นคำขอต้องมี Open ID โดยสามารถสมัครได้กับสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) ทางเว็บไซด์www.egov.go.th (หากมีปัญหาในการสมัครเพื่อสร้างบัญชีผู้ใช้งานโปรดติดต่อ [email protected] หรือโทร (+66) 0 2612 6000) ทั้งนี้ผู้ยื่นคำขอจะต้องรักษาชื่อบัญชีผู้ใช้งาน (User ID) และรหัสผ่าน (Password) ไว้เป็นความลับหากปรากฏว่ามีผู้อื่นสามารถใช้งานผ่านบัญชีของท่านได้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นและถือเป็นความรับผิดชอบของท่านหากเป็นเหตุให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเสียหาย 2. ยื่นเปิดสิทธิ์การเข้าใช้ระบบและการขออนุญาตโฆษณาอาหาร (โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมในหัวข้อขอสิทธิใช้งานระบบการขออนุญาตโฆษณาอาหาร)(สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มและศึกษารายละเอียดหลักฐานและเงื่อนไขต่างๆได้ที่เว็บไซด์กองอาหาร) 2.1 ยื่นหนังสือมอบอำนาจและแต่งตั้งผู้ดำเนินกิจการ พร้อมเอกสาร (เพื่อเป็นผู้ถือใบอนุญาต และ/หรือ เป็นผู้ยื่นคำขออนุญาต) พร้อมเอกสาร ต่อเจ้าหน้าที่ 2.2 ยื่นหนังสือมอบอำนาจ (เพื่อเป็นผู้ยื่นคำขออนุญาต) ต่อเจ้าหน้าที่ กรณีโฆษณาอาหารที่ประสงค์จะเผยแพร่ทั่วประเทศยื่นได้ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ศูนย์บริการผลิตภัณฑ์สุขภาพเบ็ดเสร็จ (OSSC) กรณีโฆษณาอาหารที่ประสงค์จะเผยแพร่เฉพาะในเขตพื้นที่แต่ละจังหวัดให้ยื่นที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนั้นๆ 3. เข้าสู่ระบบการยื่นคำขออนุญาตโฆษณาอาหาร ผ่านระบบ E-Submission กรณีโฆษณาอาหารที่ประสงค์จะเผยแพร่ทั่วประเทศ การยื่นคำขออนุญาตโฆษณาผ่านระบบ E-Submission มี 2 แบบ (โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมในหัวข้อคู่มือการยื่นขออนุญาตโฆษณา) 3.1 การยื่นคำขอแบบ E-Submission กรณี 1 คำขอ โฆษณาไม่เกิน 5 ผลิตภัณฑ์ -จัดเตรียมคำขออนุญาตโฆษณาอาหาร (แบบ ฆอ.1) ดาวน์โหลดแบบคำขออนุญาตโฆษณาอาหาร (แบบ ฆอ.1) กรอกข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้อง save file ตามชื่อไฟล์ที่ระบบตั้งให้ -จัดเตรียมเอกสารแนบท้ายคำขออนุญาตโฆษณา (แบบ ฆอ.3) ใส่เนื้อหาที่จะโฆษณาลงในแบบ ฆอ.3 ให้มีความคมชัด ชัดเจน มีลักษณะสอดคล้องกับสื่อโฆษณา และเป็นภาพสี ลงลายมือชื่อผู้ดำเนินกิจการ และ save file เป็นนามสกุล PDF -จัดเตรียมเอกสารประกอบการพิจารณา เอกสารผลิตภัณฑ์ที่ขอโฆษณาแต่ละผลิตภัณฑ์ และเอกสารประกอบการกล่าวอ้างโฆษณาแต่ละอย่าง และ save file เป็นนามสกุล PDF โดยตั้งชื่อไฟล์ให้สอดคล้องกับหัวข้อหรือเนื้อหาในเอกสาร -เข้าสู่ระบบการขออนุญาตโฆษณาอาหาร และอัพโหลดไฟล์แต่ละชนิดตามหัวข้อ -ยืนยันการยื่นคำขอ ส่งคำขอ และชำระค่าพิจารณาคำขอ เพื่อให้คำขอเข้าสู่ระบบการพิจารณา - กรณีรับคำขออนุญาตแบบมีข้อบกพร่องท่านแก้ไขข้อบกพร่องได้เพียง 1 ครั้งและภายใน 10 วันทำการโดยการอัพโหลดไฟล์เอกสารในรูป PDF ผ่านระบบ E-Submission เท่านั้น (โดยระบบจะแจ้งวันสิ้นสุดการแก้ไขข้อบกพร่องให้ท่านทราบ) หากท่านไม่แก้ไขข้อบกพร่องภายในวันที่กำหนดระบบจะส่งคืนคำขอของท่านโดยอัตโนมัติ (โดยไม่คืนค่าคำขอ) 3.2 การยื่นคำขอแบบ E-Submission กรณี 1 คำขอ โฆษณามากกว่า 5 ผลิตภัณฑ์ - จัดเตรียมคำขออนุญาตโฆษณาอาหาร (แบบ ฆอ.1) ดาวน์โหลดแบบคำขออนุญาตโฆษณาอาหาร (แบบ ฆอ.1) กรอกข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้อง save file ตามชื่อไฟล์ที่ระบบตั้งให้ - จัดเตรียมเอกสารแนบท้ายคำขออนุญาตโฆษณา (แบบ ฆอ.3) ใส่เนื้อหาที่จะโฆษณาลงในแบบ ฆอ.3 ให้มีความคมชัด ชัดเจน มีลักษณะสอดคล้องกับสื่อโฆษณา และเป็นภาพสี ลงลายมือชื่อผู้ดำเนินกิจการ และ save file เป็นนามสกุล PDF - จัดเตรียมเอกสารประกอบการพิจารณา เอกสารผลิตภัณฑ์ที่ขอโฆษณาแต่ละผลิตภัณฑ์ และเอกสารประกอบการกล่าวอ้างโฆษณาแต่ละอย่าง - เข้าสู่ระบบการขออนุญาตโฆษณาอาหาร และอัพโหลดไฟล์คำขออนุญาตโฆษณาอาหาร (แบบ ฆอ.1) และเอกสารแนบท้ายคำขออนุญาตโฆษณา (แบบ ฆอ.3) - ยืนยันการยื่นคำขอ ส่งคำขอ และชำระค่าพิจารณาคำขอ - นำส่งเอกสารประกอบการพิจารณาด้วยตนเองที่กองอาหาร กลุ่มอนุญาตโฆษณา ห้อง 325 ชั้น 3 พร้อมแจ้งรหัสดำเนินการ หรือส่งทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ กรณีท่านส่งเอกสารทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ โปรดโทรศัพท์แจ้งรหัสดำเนินการต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่กดรับเอกสารประกอบการพิจารณาและคำขอเข้าสู่ระบบการพิจารณา - กรณีรับคำขออนุญาตแบบมีข้อบกพร่องท่านแก้ไขข้อบกพร่องได้เพียง 1 ครั้งและภายใน 10 วันทำการ (โดยระบบจะแจ้งวันสิ้นสุดการแก้ไขข้อบกพร่องให้ท่านทราบ) โดยการส่งมอบเอกสารให้เจ้าหน้าที่ที่กองอาหาร กลุ่มอนุญาตโฆษณา ห้อง 325 ชั้น 3 พร้อมแจ้งเลขดำเนินการ หรือส่งทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ กรณีท่านส่งเอกสารทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ให้แจ้งรหัสดำเนินการและโปรดโทรศัพท์แจ้งรหัสดำเนินการต่อเจ้าหน้าที่ (โดยท่านสามารถพิมพ์รายการข้อบกพร่องที่เจ้าหน้าที่ได้แจ้งไว้แนบมาพร้อมกับเอกสารที่ท่านส่งเพิ่มได้) หากท่านไม่แก้ไขข้อบกพร่องภายในวันที่กำหนดระบบจะส่งคืนคำขอของท่านโดยอัตโนมัติ (โดยไม่คืนค่าคำขอ) เงื่อนไขและข้อกำหนดในการใช้ระบบและการขออนุญาตโฆษณา 1. ผู้ยื่นคำขอจะต้องรักษาชื่อบัญชีผู้ใช้งาน (User ID) และรหัสผ่าน (Password) ไว้เป็นความลับ หากปรากฏว่ามีผู้อื่นสามารถใช้งานผ่านบัญชีของท่านได้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น และถือเป็นความรับผิดชอบของท่าน หากเป็นเหตุให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเสียหาย 2. ผู้ประกอบการ (ผู้ดำเนินกิจการ หรือ ผู้รับมอบอำนาจ) ต้องดำเนินการ log in และคีย์ข้อมูลการขออนุญาตด้วยตนเอง หากผู้ประกอบการไม่สะดวกที่จะดำเนินการคีย์ข้อมูลการขออนุญาตด้วยตนเอง สามารถให้เจ้าหน้าที่คีย์ข้อมูลการขออนุญาตแทนได้ โดยมีค่าใช้จ่าย 3. กรณีคำขออนุญาตโฆษณาอาหารที่มีความซับซ้อนหรือมีความคาบเกี่ยวของการปฏิบัติตามกฎหมายหลายฉบับ จะต้องผ่านการพิจารณาโดยคณะทำงาน/คณะกรรมการ/หรือผู้เชี่ยวชาญ อาจมีการขอเอกสารชี้แจงประกอบเพิ่มเติมในภายหลัง และจะต้องใช้ระยะเวลาเพิ่มขึ้นโดยใช้เวลาสูงสุด 45 วันทำการ 4. การคืนคำขอและไม่รับคำขอ - ในขั้นตอนการพิจารณาตรวจรับคำขอ หากเอกสารประกอบการพิจารณาไม่สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ที่จะโฆษณาและอัพโหลดเอกสาร ไม่ถูกต้องตามหัวข้อที่ระบุไว้ จนเป็นเหตุให้ไม่สามารถพิจารณาต่อได้ จะไม่รับคำขอ (โดยไม่คืนค่าคำขอ) - กรณีรับคำขออนุญาตแบบมีข้อบกพร่อง สามารถแก้ไขข้อบกพร่องได้เพียง 1 ครั้ง ภายใน 10 วันทำการ หากเลยระยะเวลา ระบบจะคืนคำขอโดยอัตโนมัติ (โดยไม่คืนค่าคำขอ) - การแก้ไขข้อบกพร่องจากการกรอกข้อมูลในคำขออนุญาตโฆษณาอาหาร (แบบฆอ.1) ผิด สามารถแก้ไขได้ 1 ครั้ง ถ้าผิดอีกเจ้าหน้าที่จะพิจารณาคืนคำขอ (โดยไม่คืนค่าคำขอ) - การแก้ไขข้อบกพร่องจากการส่งเอกสารไม่ครบถ้วนตามที่เจ้าหน้าที่ร้องขอจนไม่อาจพิจารณาต่อได้ เจ้าหน้าที่จะพิจารณาคืนคำขอ (โดยไม่คืนค่าคำขอ) 5. หากผลการพิจารณาคำขอนั้นเข้าลักษณะไม่ต้องขออนุญาตหรือไม่อนุญาต ระบบจะแจ้งผลการพิจารณาให้ทราบ (โดยไม่คืนค่าคำขอ) 6. หากผู้ประกอบการประสงค์จะยกเลิกคำขอ ให้แจ้งเป็นหนังสือด้วยตนเองหรือทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์เพื่อยกเลิกคำขอในระบบ (โดยไม่คืนค่าคำขอ) 7. หากมีการออกใบอนุญาตโฆษณาอาหาร ต้องชำระค่าใบอนุญาตโฆษณาอาหารตามอัตราที่กำหนด 8. ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการขออนุญาตที่ได้ชำระไปแล้ว สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนให้ทุกกรณี ยกเว้นการชำระผิดพลาดโดยสุจริต 9. ระบบจะแจ้งผลการดำเนินการ/ผลการพิจารณาให้ทราบทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ที่ลงทะเบียนไว้การแจ้งที่อยู่ของจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ต้องเป็นที่อยู่จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในการปฏิบัติงานของบุคคลหรือนิติบุคคลนั้นซึ่งมีการทวนสอบใช้งานอย่างสม่ำเสมอการส่งข้อความจากระบบ E-Submission จะถือว่าเป็นการส่งข้อมูลที่มีการรับข้อมูลที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว หมายเหตุ ระยะเวลาดำเนินการในคู่มือประชาชนฉบับนี้ แบ่งระยะเวลาเป็นดังนี้ - ระยะเวลาดำเนินการรวมทั้งหมด 63 วันทำการเป็นการนับรวมระยะเวลาที่เจ้าหน้าที่พิจารณาอนุญาตหรือไม่อนุญาต (8 วันทำการ) ,ระยะเวลาที่ผ่านการพิจารณาโดยคณะทำงาน/คณะกรรมการ/ผู้เชี่ยวชาญ/หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (สูงสุด 45 วันทำการ) และระยะเวลาที่ผู้ยื่นคำขอใช้ดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่อง หรือชี้แจงเพิ่มเติม (สูงสุด 10 วันทำการ)