การอนุมัติงบดุลของผู้ชำระบัญชีกลุ่มเกษตรกร
กรณีที่ประชุมใหญ่ไม่ครบองค์ประชุม
ติดต่อด้วยตนเอง ณ หน่วยงาน
สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ ที่ 1 – 10 https://www.cad.go.th/main.php?filename=cad_websitelink
หมายเหตุ : หรือติดต่อทางไปรษณีย์
แอปพลิเคชันบริการอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ (Application)
สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ ที่ 1 – 10 https://www.cad.go.th/main.php?filename=cad_websitelink
หมายเหตุ : หรือติดต่อทางไปรษณีย์
12 วัน
ไม่มีค่าธรรมเนียม
- การเลิกกลุ่มเกษตรกร มาตรา 32 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยกลุ่มเกษตรกร พ.ศ. 2547 บัญญัติว่า กลุ่มเกษตรกรย่อมเลิกเมื่อมีกรณี ดังต่อไปนี้ (1) ตามที่กำหนดในข้อบังคับ (2) กลุ่มเกษตรกรมีสมาชิกน้อยกว่าสามสิบคนติดต่อกันเกินหนึ่งร้อยยี่สิบวัน (3)ที่ประชุมใหญ่ลงมติให้เลิก (4) ศาลพิพากษาให้ล้มละลาย (5) นายทะเบียนสหกรณ์สั่งให้เลิกตามมาตรา 33 กรณี (1) ,(2) ,(3) เมื่อนายทะเบียนกลุ่มเกษตรกรประจำจังหวัด (ในกรณีส่วนภูมิภาค) หรือนายทะเบียน กลุ่มเกษตรกรกรุงเทพมหานคร (ในกรณีกรุงเทพมหานคร) มีประกาศเลิกกลุ่มเกษตรกรและแต่งตั้งผู้ชำระบัญชีแล้ว พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยกลุ่มเกษตรกร พ.ศ. 2547 มาตรา 34 (http://e-service.cpd.go.th/elib/pdf_file/Farmer_2547.pdf) กำหนดให้นำบทบัญญัติเกี่ยวกับชำระบัญชีตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์มาใช้บังคับโดยอนุโลม กรณี (4) การชำระบัญชีเป็นไปตามกฎหมายล้มละลาย และกรณี (5) การชำระบัญชีเป็นไปตามระเบียบ นายทะเบียนสหกรณ์ ว่าด้วยการชำระบัญชีกลุ่มเกษตรกรที่นายทะเบียนสหกรณ์สั่งเลิก พ.ศ.2548 - เมื่อกลุ่มเกษตรกรได้เลิกตามมาตรา 32 (1),(2),(3) จึงต้องนำความเกี่ยวกับการชำระบัญชีตามมาตรา 80 แห่งพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมพ.ศ. 2553 (https://drive.google.com/file/d/0B0i AMn3FAZY0cnY5d1dUUWdDYVU/view) มาบังคับใช้โดยอนุโลม ซึ่งบัญญัติว่าผู้ชำระบัญชีต้องทำงบดุลของสหกรณ์โดยไม่ชักช้า และให้นายทะเบียนสหกรณ์ตั้งผู้สอบบัญชีเพื่อตรวจสอบงบดุลนั้น เมื่อผู้สอบบัญชีรับรองงบดุลแล้ว ให้ ผู้ชำระบัญชีเสนองบดุลต่อที่ประชุมใหญ่เพื่ออนุมัติแล้วเสนองบดุลนั้นต่อนายทะเบียนสหกรณ์ ในกรณีที่การประชุมใหญ่ ไม่ครบองค์ประชุม ให้ผู้ชำระบัญชีเสนองบดุลต่อนายทะเบียนสหกรณ์เพื่ออนุมัติ - โดยจากหลักกฎหมายข้างต้น เมื่อผู้ชำระบัญชีดำเนินการแนวทางการชำระบัญชี โดยจัดทำงบดุลของ กลุ่มเกษตรกร และได้รับการรับรองจากผู้สอบบัญชีแล้ว ให้ดำเนินการตามลำดับขั้นตอน คือ เสนองบดุลที่ได้รับการรับรองจากผู้สอบบัญชีให้ที่ประชุมใหญ่ของกลุ่มเกษตรกรพิจารณาอนุมัติก่อน แล้วจึงเสนอต่อไปยังนายทะเบียนสหกรณ์ กรณีที่ไม่สามารถประชุมใหญ่ได้เนื่องจากสมาชิกมาร่วมประชุมไม่ครบองค์ประชุมตามมาตรา 80 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542ผู้ชำระบัญชีจะต้องปฏิบัติตามคู่มือสำหรับประชาชนฉบับนี้ กล่าวคือ ผู้ชำระบัญชีเสนองบดุลที่ ผู้สอบบัญชีตรวจสอบและรับรองแล้วต่อนายทะเบียนสหกรณ์เพื่ออนุมัติ โดยยื่นคำขออนุมัติงบดุลกลุ่มเกษตรกรกรณีที่ประชุมใหญ่ไม่ครบองค์ประชุมพร้อมเอกสารหลักฐาน ไปยังผู้อำนวยการสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ที่ 1 - 10 ที่ กลุ่มเกษตรกรแห่งนั้นตั้งอยู่ ในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจหน้าที่ปฏิบัติการแทนนายทะเบียนสหกรณ์ หมายเหตุ : 1. กรณีคำขอหรือเอกสารหลักฐานประกอบการพิจารณาไม่ครบถ้วน หรือไม่ถูกต้อง และไม่อาจแก้ไข เพิ่มเติมได้ในขณะนั้น ผู้รับคำขอและผู้ยื่นคำขอจะต้องลงบันทึกความบกพร่องและรายงานเอกสารหลักฐาน ร่วมกันพร้อมกำหนดระยะเวลาให้ผู้ยื่นคำขอดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติม หากผู้ยื่นคำขอไม่ดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมภายในระยะเวลาที่กำหนดผู้รับคำขอจะดำเนินการคืนคำขอและเอกสารประกอบพิจารณา 2. พนักงานเจ้าหน้าที่จะยังไม่พิจารณาคำขอและยังไม่นับระยะเวลาดำเนินงานจนกว่าผู้ยื่นคำขอจะดำเนินการแก้ไขคำขอหรือยื่นเอกสารเพิ่มเติมครบถ้วนตามบันทึกความบกพร่องนั้นเรียบร้อยแล้ว 3. ขั้นตอนการดำเนินงาน ตามคู่มือจะเริ่มนับระยะเวลาตั้งแต่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารครบถ้วนถูกต้องตามที่ระบุไว้ในคู่มือประชาชนเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ จะมีการแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ยื่นคำขอทราบภายใน 7 วัน นับแต่วันที่พิจารณาแล้วเสร็จ
1. พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยกลุ่มเกษตรกร พ.ศ. 2547
2. พระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. 2542
ไม่มีรายการใบอนุญาต
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.)
- 99 หมู่ 4 อาคารซอฟต์แวร์ปาร์ค ชั้น 2 ถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลคลองเกลือ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120
- สายด่วน 1206 / โทรศัพท์ 0 2502 6670-80 ต่อ 1900 , 1904- 7 / โทรสาร 0 2502 6132