... ... ...

การขอรับประโยชน์ทดแทนผู้ประกันตนตามมาตรา 40

กรณีชราภาพ

ช่องทางการให้บริการ

ติดต่อด้วยตนเอง ณ หน่วยงาน

สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-12 / สำนักงานประกันสังคมจังหวัดและสาขาทั่วประเทศ

หมายเหตุ : ที่อยู่/โทรศัพท์ สามารถค้นหาได้ทางเว็บไซต์ www.sso.go.th

ไม่พบช่องทางการให้บริการออนไลน์

25 นาที

1.
แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนผู้ประกันตนตามมาตรา 40 (สปส. 2-01/ม.40) (ฉบับจริง 1 ฉบับ)
ตัวอย่างเอกสาร: ดาวน์โหลด
2.
บัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง 1 ฉบับ)
รายละเอียดเอกสาร: -ผู้ประกันตนและหรือผู้มีสิทธิที่รับเงินบำเหน็จชราภาพ - กรณีมอบอำนาจต้องทำเป็นหนังสือมอบอำนาจและนำบัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง) ของผู้มอบ และผู้รับมอบอำนาจไปแสดง หรือ - กรณีรับเงินทางธนาคาร ให้แนบสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์หน้าแรกที่มีชื่อ และเลขที่บัญชีของผู้มีสิทธิ
3.
ใบมรณบัตร (สำเนา 1 ฉบับ)
รายละเอียดเอกสาร: ผู้ประกันตน และหรือผู้มีสิทธิ
หมายเหตุ: เอกสารประกอบการยื่นคำขอฯที่เป็นสำเนาให้รับรองความถูกต้องของสำเนาทุกฉบับ และแสดงเอกสารที่เป็นต้นฉบับ
4.
บัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง 1 ฉบับ)
รายละเอียดเอกสาร: ผู้ประกันตน และหรือผู้มีสิทธิ
หมายเหตุ: กรณีผู้ประกันตนหรือผู้มีสิทธิมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านอยู่คนละเล่ม ต้องนำฉบับจริงมาแสดงทุกเล่ม
5.
ทะบียนสมรส (ฉบับจริง 2 ฉบับ)
รายละเอียดเอกสาร: ผู้ประกันตน และของบิดา
หมายเหตุ: แสดงเอกสารที่เป็นต้นฉบับให้พนักงานเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบ

ไม่มีค่าธรรมเนียม

เงื่อนไขการเกิดสิทธิ - อายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ และไม่ประสงค์เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ต่อไป - ผู้ประกันตนถึงแก่ความตายก่อนอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์หรือก่อนที่จะได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ ประโยชน์ทดแทนที่ได้รับ ทางเลือกที่ 2 - เงินบำเหน็จชราภาพ เดือนละ 50 บาท และเงินที่ผู้ประกันตนนำส่งเพิ่มเติมในกรณีชราภาพ พร้อมด้วยผลประโยชน์ตอบแทนรายปีที่สำนักงานประกาศกำหนดในแต่ละปี ทางเลือกที่ 3 - เงินบำเหน็จชราภาพ เดือนละ 150 บาท และเงินที่ผู้ประกันตนนำส่งเพิ่มเติมในกรณีชราภาพ พร้อมด้วยผลประโยชน์ตอบแทนรายปีที่สำนักงานประกาศกำหนดในแต่ละปี - เงินบำเหน็จชราภาพเพิ่มเติม จำนวน 10,000 บาท (เมื่อผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบ ตั้งแต่ 180 เดือนขึ้นไป) ในกรณีผู้ประกันตนถึงแก่ความตายก่อนอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ หรือก่อนที่จะได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพให้แก่บุคคล ดังต่อไปนี้ (1) สามีภริยา บิดามารดา บุตรของผู้ประกันตน หรือบุคคลซึ่งผู้ประกันตนทำหนังสือระบุให้เป็นผู้มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพในจำนวนที่เท่ากัน (2) ในกรณีที่ไม่มีผู้มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพตาม (1) ให้ทายาทของผู้ประกันตนดังต่อไปนี้ มีสิทธิรับเงินบำเหน็จชราภาพตามลำดับ หากบุคคลลำดับใดมีจำนวนมากกว่าหนึ่งคน ให้บุคคลลำดับนั้นได้รับส่วนแบ่งเท่ากัน 1. พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 2. พี่น้องร่วมบิดาหรือร่วมมารดา 3. ปู่ ย่า ตา ยาย 4. ลุง ป้า น้า อา วิธีการและเงื่อนไขในการยื่นคำขอฯ 1. ผู้ประกันตน/ผู้มีสิทธิ ต้องยื่นแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนผู้ประกันตนตามมาตรา 40 (สปส.2-01/ม.40) กำหนดภายใน 2 ปี นับแต่วันที่มีสิทธิขอรับประโยชน์ทดแทน โดยกรอกแบบคำขอฯ ให้ครบถ้วน ถูกต้อง พร้อมลงลายมือชื่อ วัน เดือน ปี ที่ยื่นคำขอฯ ไว้เป็นหลักฐาน 2. กรณีเอกสารหลักฐานและข้อเท็จจริงครบถ้วน ถูกต้อง เจ้าหน้าที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด และมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ประกันตน/ผู้มีสิทธิทราบ 3. กรณีเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถวินิจฉัยเรื่องได้ เจ้าหน้าที่จะมีหนังสือแจ้งให้ทราบว่าเหตุใดจึงยังไม่สามารถวินิจฉัยได้ 4. การรับเงิน มี 3 วิธี ดังนี้ 1) กรณีเช็ค (ผู้มีสิทธิ ขอรับด้วยตนเองให้นำบัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง)ไปแสดง หรือกรณีมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมา รับแทน ต้องทำเป็นหนังสือมอบอำนาจและนำบัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง) ของผู้มอบอำนาจ และผู้รับมอบอำนาจไปแสดงด้วย) 2) กรณีรับเงินทางธนาณัติ ให้ระบุชื่อที่ทำการไปรษณีย์ที่ต้องการจะติดต่อรับเงินให้ชัดเจน สำนักงานฯ จะส่งธนาณัติให้ผู้มีสิทธิ หลังจากวันที่อนุมัติคำสั่งจ่ายแล้ว 3) กรณีรับเงินผ่านทางธนาคาร ต้องแนบสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์ ที่มีชื่อและเลขที่บัญชีของผู้ประกันตน/ผู้มีสิทธิ เท่านั้น สำนักงานฯ จะแจ้งธนาคารให้โอนเงินเข้าบัญชีผู้ประกันตน/ผู้มีสิทธิ ภายใน 5 วันทำการ นับถัดจากวันที่อนุมัติคำสั่งจ่าย หมายเหตุ : 1. กรณีคำขอหรือรายการเอกสารประกอบการพิจารณาไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน หรือไม่อาจแก้ไข /เพิ่มเติมได้ ในขณะนั้น ผู้รับคำขอฯ และผู้ยื่นคำขอฯ จะต้องลงนามในแบบรับเรื่องและตรวจสอบเอกสารการขอรับประโยชน์ทดแทนผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ที่เจ้าหน้าที่แจ้งให้ทราบร่วมกัน พร้อมกำหนดระยะเวลาให้ผู้ยื่นคำขอฯ ดำเนินการแก้ไข/เพิ่มเติม หากผู้ยื่นคำขอไม่ดำเนินการแก้ไข /เพิ่มเติมได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดผู้รับคำขอฯ จะดำเนินการส่งคืนคำขอฯ และเอกสารประกอบการพิจารณา 2. ในกรณีมีเหตุอันควรสงสัย เจ้าหน้าที่อาจขอข้อเท็จจริงเพื่่อประกอบการวินิจฉัยประโยชน์ทดแทนเพิ่มเติมจากบุุคคลที่เกี่ยวข้อง 3. ในกรณีผู้ยื่นคำขอฯ ไม่ได้มายื่นด้วยตนเอง ณ สำนักงานประกันสังคม เช่น นำฝากทางไปรษณีย์ หรือฝากผู้อื่นส่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วพบว่า เอกสารไม่ครบถ้วนตามที่ระบุไว้ในคู่มือประชาชน เจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ผู้ยื่นคำขอฯ หรือผู้แทน นำส่งเอกสารให้สำนักงานประกันสังคมภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง 4. พนักงานเจ้าหน้าที่จะยังไม่พิจารณาคำขอฯ และยังไม่นับระยะเวลาดำเนินการ จนกว่าผู้ยื่นคำขอฯ จะดำเนินการแก้ไขคำขอฯ หรือยื่นเอกสารเพิ่มเติมให้ครบถ้วนตามที่เจ้าหน้าที่แจ้ง และได้ตรวจสอบเอกสารการขอรับประโยชน์ทดแทนผู้ประกันตนตามมาตรา 40 เรียบร้อยแล้ว 5. ขั้นตอนการดำเนินงานตามคู่มือจะเริ่มนับระยะเวลาตั้งแต่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารครบถ้วนตามที่ระบุไว้ในคู่มือประชาชนเรียบร้อยแล้ว 6. เอกสารหลักฐานประกอบการยื่นคำขอ ที่เป็นสำเนาให้รับรองความถูกต้องของสำเนาทุกฉบับ พร้อมแสดงเอกสารที่เป็นต้นฉบับให้พนักงานเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบ

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

1. พระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบ ประเภทของประโยชน์ทดแทน ตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนของบุคคลซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตน พ.ศ. 2561

2. พระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533

1.
การตรวจสอบความครบถ้วนของเอกสาร
รายละเอียด: เจ้าหน้าที่รับคำขอ ตรวจสอบความครบถ้วน และถูกต้องของแบบคำขอและเอกสารประกอบ และบันทึกคำขอ
ระยะเวลา: 5 นาที
หน่วยงานที่รับผิดชอบ: สำนักงานประกันสังคม
2.
การตรวจพิจารณาเอกสาร
รายละเอียด: เจ้าหน้าที่พิจารณาวินิจฉัยข้อมูลจากเอกสารและข้อเท็จจริง และแจ้งคำสั่งประโยชน์ทดแทน
ระยะเวลา: 15 นาที
หน่วยงานที่รับผิดชอบ: สำนักงานประกันสังคม
3.
การลงนาม/คณะกรรมการมีมติ
รายละเอียด: เจ้าหน้าที่การเงินอนุมัติ และจ่ายประโยชน์ทดแทน (กรณีรับ เช็ค ณ สำนักงาน)
ระยะเวลา: 5 นาที
หน่วยงานที่รับผิดชอบ: สำนักงานประกันสังคม

ไม่มีรายการใบอนุญาต

1.
ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี
เลขที่ 1 ถ.พิษณุโลก เขตดุสิต กทม. 10300 / สายด่วน 1111 / www.1111.go.th / ตู้ ปณ.1111 เลขที่ 1 ถ.พิษณุโลก เขตดุสิต กทม. 10300
2.
ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนการทุจริตในภาครัฐ

สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.)

- 99 หมู่ 4 อาคารซอฟต์แวร์ปาร์ค ชั้น 2 ถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลคลองเกลือ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120

- สายด่วน 1206 / โทรศัพท์ 0 2502 6670-80 ต่อ 1900 , 1904- 7 / โทรสาร 0 2502 6132

- www.pacc.go.th

3.
สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-12 /สำนักงานประกันสังคมจังหวัดและสาขาทั่วประเทศ
- ที่อยู่/โทรศัพท์ (สามารถค้นหาได้ทางเว็บไซต์ www.sso.go.th) - www.sso.go.th - สายด่วน 1506